รีวิวโน้ตบุ๊ก ASUS Vivobook S16 (D3607) - AI สุดบางเบาของยุคใหม่ (2025)

Table of Contents

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function ภาพตัวเครื่อง Look & Design ข้อมูลสเปคSpecification References

การมาถึงของยุค AI PC ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ และ ASUS ก็ไม่รอช้าที่จะส่ง ASUS Vivobook S16 (D3607) ลงสู่ตลาดในฐานะโน้ตบุ๊ก Copilot+ PC รุ่นแรกๆ ที่ใช้ขุมพลังจาก AMD นี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรดสเปค แต่มันคือการเปลี่ยนผ่านสู่ประสบการณ์การใช้งานโน้ตบุ๊กรูปแบบใหม่ที่ผสาน AI เข้าไปในทุกอณูของการทำงาน ตั้งแต่ดีไซน์ที่พรีเมียมเกินราคา ไปจนถึงฟีเจอร์อัจฉริยะที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หัวใจหลักของ Vivobook S16 เครื่องนี้คือชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 7 350 Processor ที่ไม่ได้มีดีแค่ CPU 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.0GHz แต่มาพร้อมหน่วยประมวลผล AI หรือ NPU (Neural Processing Unit) ในตัว สถาปัตยกรรม AMD XDNA ที่ทรงพลังถึง 50 TOPS (Trillion Operations Per Second) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกความสามารถของ Copilot+ PC อย่างเต็มรูปแบบ

เมื่อรวมกับ RAM DDR5 ขนาด 32GB และ SSD ความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe 4.0 ทำให้ Vivobook S16 ไม่เพียงแค่พร้อมสำหรับงานในปัจจุบัน แต่ยังรองรับแอปพลิเคชัน AI ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างสบายๆ

ฟีเจอร์เด่นที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI ประกอบด้วย:

Copilot in Windows: ผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่ทำงานได้ลึกถึงระดับ OS ช่วยสรุปเนื้อหา, โต้ตอบบทสนทนา, และทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
Windows Studio Effects: ยกระดับการประชุมออนไลน์ให้ดูเป็นมืออาชีพขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนโดย NPU โดยตรง ทั้งการแก้ไขการสบตาอัตโนมัติ (Eye Contact), การเบลอพื้นหลังที่เนียนขึ้น, การปรับแสงในเฟรมแบบเรียลไทม์ และการใส่ฟิลเตอร์สร้างสรรค์ต่างๆ
ASUS StoryCube: ซอฟต์แวร์สุดพิเศษที่ใช้ AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการไฟล์ดิจิทัลทั้งหมดในเครื่อง โดย AI จะทำการวิเคราะห์และจัดหมวดหมู่ไฟล์ภาพและวิดีโอให้อัตโนมัติ ทำให้การค้นหา, แก้ไข, และจัดเรียงคอนเทนต์กลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
AI เพื่อความเป็นส่วนตัว: นอกจากการปลดล็อกด้วยใบหน้าผ่าน Windows Hello IR camera แล้ว ยังมีฟีเจอร์ Adaptive Dimming ที่ใช้ AI ตรวจจับว่าผู้ใช้มองหน้าจออยู่หรือไม่ และจะลดความสว่างลงอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ละสายตาไป ซึ่งช่วยทั้งประหยัดพลังงานและเพิ่มความเป็นส่วนตัว

นอกจากนี้ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 70Wh ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง และระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จได้ 60% ภายใน 49 นาที ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

สัมผัสแรกกับ Vivobook S16 ต้องบอกว่าน่าประทับใจมาก ตัวเครื่องใช้วัสดุ อะลูมิเนียม ทั้งหมด ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานและหรูหราเทียบชั้นรุ่นพี่อย่าง Zenbook ในสีเทา Matte Gray ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความพรีเมียม ดีไซน์โดยรวมเน้นความมินิมอล มีเพียงโลโก้ ASUS VIVOBOOK ที่สลักไว้อย่างสวยงามบนฝาหลัง

แม้จะเป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอ 16 นิ้ว แต่ตัวเครื่องกลับมีความเพรียวบางอย่างน่าทึ่ง ด้วยความหนาเพียง 1.59 ซม. และน้ำหนัก 1.7 กก. ทำให้การพกพาไปทำงานนอกสถานที่สะดวกสบายเกินคาด ทั้งยังผ่านมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ US MIL-STD-810H อีกด้วย

หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ OLED ความละเอียด WUXGA (1920 x 1200) ในอัตราส่วน 16:10 ซึ่งให้พื้นที่การทำงานในแนวตั้งที่มากกว่าจอ 16:9 ทั่วไป คุณภาพของจอ OLED นั้นยอดเยี่ยมตามคาด ให้สีสันที่สดใสสมจริง คอนทราสต์จัดเต็ม และสีดำที่ดำสนิท ทำให้ประสบการณ์การทำงานและความบันเทิงถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เหนือขอบจอขึ้นไปติดตั้งกล้องเว็บแคม FHD ที่มาพร้อม ที่ปิดเลนส์กล้อง (Privacy Shutter) แบบ physical เพิ่มความมั่นใจด้านความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งาน

แป้นพิมพ์แบบ Backlit Chiclet พร้อม Numpad ให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดี และที่สำคัญคือมี ปุ่ม Copilot โดยเฉพาะสำหรับเรียกใช้งาน AI ได้ทันที ส่วนทัชแพดมีขนาดใหญ่พิเศษ ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำ รองรับ ASUS Smart Gestures ได้อย่างลื่นไหล

พอร์ตการเชื่อมต่อให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C ที่รองรับการชาร์จและต่อจอแยก, HDMI 2.1 และช่องหูฟัง 3.5 มม. พลิกดูด้านใต้ตัวเครื่องจะเห็นการออกแบบช่องระบายอากาศที่กินพื้นที่เป็นแนวยาว สะท้อนความใส่ใจในระบบระบายความร้อนเป็นอย่างดี

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

Vivobook S16 รันบนระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Copilot+ PC เต็มรูปแบบ การทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำได้อย่างน่าทึ่ง การเรียกใช้ฟังก์ชัน AI ต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและแทบไม่มีความหน่วงให้เห็น

การปลดล็อกหน้าจอทำได้สะดวกและปลอดภัยผ่าน Windows Hello IR camera ที่ทำงานร่วมกับกล้อง FHD ซึ่งมีที่ปิดเลนส์ (Privacy Shutter) มาให้ด้วย อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Adaptive Dimming ที่กล้องจะตรวจจับว่าเรามองหน้าจออยู่หรือไม่ และจะลดความสว่างลงอัตโนมัติเมื่อเราละสายตาไป เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน

ด้านความบันเทิง ระบบเสียง Dolby Atmos ให้มิติเสียงที่โอบล้อมและชัดเจนเกินตัว ส่วนเทคโนโลยี AI Noise Canceling ก็ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างทั้งฝั่งไมโครโฟนและลำโพง ทำให้การประชุมออนไลน์มีประสิทธิภาพสูงสุด

พิเศษสุดคือ Vivobook S16 มาพร้อม Microsoft Office Home 2024 และ Microsoft 365 Basic ให้ใช้งานฟรี 12 เดือน ถือเป็นการเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้งานไปอีกขั้น

สรุปและราคา

ASUS Vivobook S16 (D3607KA-OLED777WA) คือโน้ตบุ๊ก AI ที่สมดุลอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ดีไซน์ และฟีเจอร์ที่ให้มา ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานที่ต้องการเครื่องมือที่ทรงพลัง ดีไซน์สวยงาม และพร้อมสำหรับเทคโนโลยี AI ในอนาคต การผสานพลังของชิปฯ AMD Ryzen AI เข้ากับแพลตฟอร์ม Copilot+ PC ได้เปลี่ยน Vivobook S16 จากโน้ตบุ๊กธรรมดาให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ

ด้วยราคาเปิดตัวที่ 32,990 บาท พร้อมการรับประกัน On-Site Service 3 ปี และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty 1 ปีเต็ม ทำให้ ASUS Vivobook S16 เป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊ก AIที่คุ้มค่าและน่าจับตามองที่สุดในตลาด ณ เวลานี้